ชาวเน็ตถามหา ตู้นี้สีอะไร ตู้ขายกัญชาอัตโนมัติ อยู่ไหน หลังถูกตั้งคำถาม จากกรณีมีภาพตู้ตั้งขายอย่างโจ๋งครึ้ม จากกรณีที่ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งได้โพสต์ภาพตู้ขายกัญชาอัตโนมัติ ตู้นี้สีอะไร ซึ่งมีการขายช่อดอกกัญชาหลากหลายสายพันธุ์ พร้อมเขียนข้อความกำกับว่า “เรียบร้อยครับท่านกัญชาเสรีมียันตู้ขายอัตโนมัติขายกระทั่งอุปกรณ์ ผมสงสัยอย่างหนึ่งว่า ไอ้คำเตือนที่ติดบนตู้ให้แสดงบัตรประชาชนก่อนซื้อ ใครเป็นคนดู? หรือว่าต้องเสียบบัตรเข้าไปในตู้เพื่อให้อ่านชิป? อันนี้ผมไม่ทราบจริงๆเพราะผมไม่เคยซื้อ”
หลังโพสต์นี้ได้รับการเผยแพร่ออกไปก็มีชาวเน็ตเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม
และความกังวลว่าหากมีเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 มาจะใช้จะทำอย่างไร รวมถึงถามด้วยว่า ตู้ขายกัญชาอัตโนมัติ ตู้นี้สีอะไร ตั้งอยู่ที่ไหน? จากการตรวจสอบของทีมข่าวช่อง 7 ได้นั้นพบว่าตู้นี้เคยถูกตั้งที่ ย่านสยามสแควร์ ตั้งแต่วันที่ 25-26 มิถุนายน และงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 19 ที่อิมแพค เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 6-10 กรกฎาคม ซึ่งทางช่อง 7 ได้โทรสอบถามทางบริษัท ว่ามีการตั้งเพิ่มเติมจากสองจุดดังกล่าว หรือไม่ แต่ทางบริษัทปฏิเสธที่จะให้คำตอบกลับมา
ด้านบริษัทออกมาตอบโต้ว่า ต้องขออภัยที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในครั้งนี้ สำหรับการจัดจำหน่ายสินค้าหน้าตู้ บริษัทยืนยันมีเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและคอยตรวจสอบ อีกทั้งยังได้ให้คำปรึกษาก่อนจัดจำหน่ายทุกครั้ง
พร้อมกับระบุ จะเร่งดำเนินการอย่างเข้มงวดในการจัดจำหน่าย และเร่งพัฒนาระบบ หรือสินค้าให้เป็นไปอย่างถูกต้อง เพื่อสอดคล้องกับกฎหมายต่อไป
ขณะที่ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการสื่อสารและประชาสัมพันธ์การใช้กัญชาอย่างเข้าใจ ของกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงประเด็นตู้ขายกัญชาอัตโนมัติว่า ต้องให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบชัดเจนอีกครั้ง
ทว่าหากพิจารณาตาม พ.ร.บ.อาหาร และ พ.ร.บ.ส่งเสริมและคุ้มครองภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย ที่ให้กัญชาเป็นสมุนไพรควบคุม ตู้นี้สีอะไร ตู้กัญชาอัตโนมัติ ถือว่าสุ่มเสี่ยงต่อการผิดกฎหมาย
คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เห็นชอบ ลดระดับโควิด เทียบเท่ากับไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก มีผลวันที่ 1 ตุลาคม นี้ ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ครั้งที่ 6 โดยมี นาย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน เห็นชอบให้ลดระดับโควิด-19 จาก โรคติดต่ออันตราย เป็น ‘โรคติดต่อเฝ้าระวัง
ถือเป็นการลดระดับโควิดเทียบเท่ากับ โรคไข้หวัดใหญ่ ไข้มาลาเรีย ไข้เลือดออก โดยจะมีผลนับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ยอดผู้ป่วยเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบ ให้โรงพยาบาลทุกสังกัด ทั้งรัฐ และเอกชน รวมทั้งคลินิกเวชกรรม สามารถจัดซื้อ จัดหายาต้านไวรัสโควิดได้เอง ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนนี้เป็นต้นไป เช่นเดียวกันกับร้านขายยา สามารถนำยาต้านต้านไวรัสมาจำหน่ายได้เอง แต่การซื้อขายต้องมีใบสั่งจ่ายยาจากแพทย์รับรองด้วย
ทั้งนี้ในส่วนของราคาจำหน่ายยาต้านไวรัส ทาน สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. จะเป็นผู้ที่กำหนดราคากลางหรือราคาอ้างอิงต่อไป
เศร้า! เผย วินาทีหนีตายไฟไหม้ผับชลบุรี คนข้างหลังไหม้หมด
นักเที่ยวเล่า วินาทีหนีตายไฟไหม้ผับชลบุรี ภาพติดตา คนข้างหลังถูกไฟไหม้หมด เล่าได้ยินเสียงระเบิดก่อนไฟไหม้ รู้สึกจิตตก จากกรณี ไฟไหม้ผับชลบุรี หรือเหตุ ไฟไหม้ Mountain B Pub ที่ ริมถนนสายสุขุมวิทบางนา-ตราด ม.7 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 13 ศพ และจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บอีกหลายราย
ล่าสุดมีผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ระบุว่าตนอยู่ในเหตุไฟไหม้ชลบุรี ได้ออกมาเขียนข้อความเฟซบุ๊กวินาทีเฉียดตายว่า “30 วินาที ตะเกียกตะกายเอาชีวิตออกมา คนตายต่อหน้าต่อตา คนที่วิ่งตามหลังเราคือไหม้หมด น้องผู้หญิงโต๊ะหลังก็โดนไฟท่วมตัวแดงทั้งตัว ขอให้ทุกคนไปสู่สุคติ ทั้งวิ่งทั้งจะหาเพื่อนทั้งจะเอาตัวรอด ถ่ายคลิปไว้ยังไม่กล้ามองเลย ภาพติดตา”
ผู้โพสต์ยังเขียนเพิ่มเติมถึงเหตุ ไฟไหม้ชลบุรี ด้วยว่า “คือนี่เข้าไปประมาณเที่ยงคืนนิด ๆ ก็ยืนกินเบียร์ได้ 3-4 แก้ว แต่หันหลังให้เวที แล้วนักร้องขึ้นร้องเพลงอีกเบรกได้ 2 เพลงก็มีเสียงระเบิดขึ้นตรงฝั่งเวที ทุกคนก็ตกใจแล้ว นักร้องก็หยุดเล่นแล้วหันไปมองเห็นไฟลุก เราก็เลยตะโกนไฟไหม้
ความรู้สึกตอนนั้นคือทุกคนก็รีบวิ่งกันออก เบียดเหยียบกันล้ม ตอนนั้นคือควันดำท่วมทั้งร้านแล้วออกมาได้พ้นประมาน 3-4 ก้าวก็ระเบิดอีกรอบไหม้ท่วมตามคลิปที่เขาไปลงเลยค่ะ สติหลุดทำไรไม่ถูกแต่กดถ่ายทัน ทั้งวิ่งหาเพื่อนที่ไปด้วยกันทั้งกลัวกับสภาพคนที่วิ่งไฟคลอกออกมา แต่โชคดี บุญรักษามาก ๆ ที่รอดออกมาทันแค่ไม่กี่ 10 วินาทีเฉียดตาย ภาพติดตา จิตตก” ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้สรุปสาเหตุไฟไหม้ผับชลบุรีแน่ชัด
ปัจจุบัน พบว่า ความครอบคลุมการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในประเทศไทยโดยรวมยังค่อนข้างน้อย เพียง 35% เท่านั้น และจากการเก็บข้อมูลของผู้ที่มีอาการป่วยรุนแรงและเสียชีวิตจากโควิด พบว่า ยังคงเป็นประชากรในกลุ่ม 608 ซึ่งเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นค่อนข้างต่ำ
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป